ประวัติศาสตร์

แม่ทัพเซียวฉู่อี้และเด็กกำพร้าลู่อวิ๋นซีเป็นเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก หลังจากแต่งงานกันก็ครองรักกันอย่างดี แต่ทว่าเซียวฉู่อี้กลับถูกเนรเทศไปยังเขตพรหมแดนเพราะชิงภรรยาของตน หลังจากเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เขากลับมาพบว่าอวิ๋นซีได้แต่งงานใหม่กับโจวเยี่ยนอวี้ ลูกพี่ลูกน้องของเธอไปเสียแล้ว

บอกเล่าเรื่องราวในยุคสมัยโบราณที่เต็มไปด้วยการชิงไหวพริบและการต่อสู้เพื่ออำนาจ ฮวาเพ่ยหรง หญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดและมุ่งมั่นจำเป็นต้องสืบทอดกิจการร้านผ้าไหมอันเลื่องชื่อของตระกูล เธอไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับปัญหาทางการค้าแต่ยังต้องต่อกรกับศัตรูที่พยายามดิสเครดิตชื่อเสียงของครอบครัวจนมาวันหนึ่งเธอได้พบกับ หลี่จิ่งเหยียน บุตรชายคนรองของขุนนางใหญ่ผู้ถูกขับไล่จากครอบครัวเพราะปัญหาทางการเมืองแม้จะมีนิสัยเย็นชาและเจ้าเล่ห์แต่เขาก็เป็นผู้มีความรู้และแผนการเฉียบคม ซึ่งเพราะการเจอกันครั้งนี้ทำให้ทั้งสองต้องมาร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือกิจการและกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูล

ตระกูลฟู่วอดวาย มีแค่ฟู่จ้าวเสวี่ยรอดชีวิต หลักฐานกลับชี้ตัวไปที่กู้จิงโจวคนรักเก่า เธอเปลี่ยนโฉมหน้าเข้ามาเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของกู้จิงโจว สืบความลับที่ซ่อนอยู่ของตระกูลกู้ เธอตั้งใจเข้าหาคนรักเก่า ทำให้เกิดความขัดแย้งในตระกูลกู้ ความแค้นความชิงชังระหว่างครอบครัวได้บานสะพรั่งขึ้นในช่วงน้ำลดตอผุด

ในรัชสมัยซ่งเหนือ ครอบครัวสมาชิกห้าคนอย่างจ้าวปู้โหยว และเวินเยว่ใช้ชีวิตอยู่ ณ มุมหนึ่งของตรอกเชวี่ยเอ๋อร์ในเมืองเปี้ยนเหลียง เดิมทีจ้าวปู้โหยวเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยผู้ช่วยเสมียนที่มีตำแหน่งต่ำต้อยที่สุดในศาลต้าหลี่ เขาแค่อยากใช้ชีวิตธรรมดาเรียบง่าย เวินเยว่ผู้เป็นภรรยากลับอยากจะซื้อบ้านและที่นา ครอบครัวจึงมักจะทะเลาะมีปากเสียงแต่ก็มีความสุขกันดี เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายอยู่ครั้งหนึ่ง ทั้งครอบครัวถูกดึงเข้าไปพัวพันในคดีเรือเหมยที่น่าตกตะลึง เริ่มการเดินทางแสนมหัศจรรย์ที่ไขคดีปริศนาต่าง ๆ และแก้ไขปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปด้วย ในระหว่างนี้ ในครอบครัวได้ทำความรู้จักกันใหม่อีกทั้งยังยอมรับในกันและกัน และต่างฝ่ายต่างเติบโต จูงมือกันฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย เมื่อคดีต่าง ๆ คลี่คลาย เบาะแสทุกอย่างต่างชี้ไปที่ “นักบุญแห่งเจียงหนาน” สุดท้ายเปิดโปงความจอมปลอมและความชั่วร้ายของคนชั่วจากความพยายามของสมาชิกครอบครัวทั้งห้าคน ทำลายสถานการณ์ความวุ่นวายของการผูกขาดตลาด เส้นทางอาชีพไม่ชัดเจน ได้ปกป้องความสุขของครอบครัวเล็ก ๆ แล้วก็ได้ปกป้องความร่มเย็นความสุขของชาวบ้านเมืองเปี้ยนเหลียง

หลังจากที่หนานเฟิงอี้แห่งศาลต้าหลี่และนายหน้าหญิงเมิ่งซีโจวพบกันเพราะเรื่องคดี พวกเขาจับปีศาจด้วยกันในฐานะอาจารย์กับศิษย์ ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มลึกซึ้งยิ่งขึ้น เมิ่งซีโจวราชาปีศาจตัวจริงก็ปรากฏตัวขึ้น นางถูกอาคมควบคุมภายจิตใจ หนานเฟิงอี้ยังค้นพบว่าเขามีแก่นปีศาจที่เมิ่งซีโจวสูญเสียไปในร่างกายของมาหลายปี เพื่อช่วยคนรักของเขา หนานเฟิงอี้จึงตัดแกนกลางออกแล้วส่งคืน และใช้เวลาสุดท้ายในชีวิตร่วมกับเมิ่งซีโจวเพื่อต่อต้านความชั่วร้ายและปลดปล่อยผู้บริสุทธิ์

เย่เป่ยเฉิน พระเจ้าอาผู้มีอำนาจมักจะนอนไม่หลับเพราะคิดถึงคนคนหนึ่งจนแทบบ้า นั่นก็คือ ซ่างกวนเว่ยยาง หลานสะใภ้ของเขา ในอดีตชาติ เย่เป่ยเฉินตั้งใจที่จะปกป้องซ่างกวนเว่ยยางอย่างลับ ๆ แต่ซ่างกวนเว่ยยางกลับฆ่าตัวตายด้วยความเคียดแค้นและตกลงมาจากกำแพงเมืองในชุดสีแดง ทำให้หัวใจของเขารู้สึกเหมือนดิ่งลงเหว เขาเจ็บปวดและเสียใจ เสียใจกับความสำเร็จของตัวเอง ดังนั้นเย่เป่ยเฉินผู้ยึดมั่นจึงต้องการพลิกชะตากรรมแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเอง เพียงเพื่อโอกาสที่จะได้พบเจอและรักกันอีกครั้ง ในชาตินี้

เรื่องราวของ ชิงฉ่าย (รับบทโดย กวนหง) บุตรของกษัตริย์องค์ก่อนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ โดยไม่เปิดเผยตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในราชสำนัก จนกระทั่ง หานจง พ่อบุญธรรมของเขาตกอยู่ในอันตราย เขาจึงต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อแอบเข้าไปในสำนักหมิงอี๋ซึ่งรับสมัครเฉพาะศิษย์หญิงเท่านั้น เขาได้พบกับ กานผู เด็กกำพร้าจากสำนักม่อ (รับบทโดย เจิ้งเหอฮุ่ยจื่อ) ที่เดินทางมาเพื่อแก้แค้น รวมถึงหวังอี้เส้า (รับบทโดย จูจ้านจิ่น) หานอ้ายเจิน (รับบทโดย หวังจื๋อเจี่ย) เกาอิน (รับบทโดย เจียงเหมิงเซวียน) หูเจียว (รับบทโดย อิ่นชีซี) และคนอื่น ๆ ที่มีนิสัยและแรงจูงใจต่างกัน ชิงฉ่ายได้เข้าไปพัวพันกับสถานการณ์ที่น่าขบขันในขณะที่เขาพยายามปกปิดตัวตน และเขาก็มีความรู้สึกดี ๆ กับกานผูด้วยเช่นกัน ชิงฉ่ายและกานผูจากเพื่อนที่ทะเลาะกันค่อย ๆ ตกหลุมรักกัน แต่เมื่อได้เผชิญหน้ากับตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา พวกเขาก็เริ่มห่างเหินกัน หลังจากกานผูจัดการกับความรู้สึกขัดแย้งในตัวเองได้สำเร็จ ในที่สุดเธอก็ร่วมมือกับชิงฉ่ายเพื่อต่อสู้กับศัตรู

แสดงถึงเรื่องราวของความกล้าหาญ การต่อสู้ ไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรค บอกเล่าเรื่องราวในตำนานที่คุณหนูตัวแสบจี้อิงอิงจากคุณหนูโรงย้อมฮ่วนฮวากลายเป็นช่างฝีมือสาว สมัยราชวงศ์ถัง ความงดงามของแพรไหมสู่เป็นที่รับรู้กันทั่ว คหบดีผู้มีอำนาจต่างพากันให้ความนิยม มิหนำซ้ำในกองทัพ “ใช้ผ้าแพรมาเป็นเบี้ยหวัด” หนึ่งชุ่นผ้าแพรเท่ากับหนึ่งชุ่นทองคำ กลายเป็นจุดสำคัญที่อำนาจฝักฝ่ายต่าง ๆ ช่วงชิงกัน ระหว่างที่กิจการผ้าแพรในเมืองอี้โจวของแคว้นสู่กำลังรุ่งเรื่องก็มีคลื่นใต้น้ำโหมซัด ไหมสู่หงของสกุลจี้ในเมืองอี้โจวมีราคาสูงลิบลิ่วยากแก่การครอบครอง ขึ้นชื่อว่า “พอมีสีแดงของแคว้นสู่ สีแดงนับพันร่วงโรย” แต่โดนคนใส่ร้าย สกุลจี้โชคไม่ดีเข้ามาพัวพันกับคดีแพรไหมปลอม พ่อจี้ตายไปอย่างเสื่อมเสียชื่อเสียง สกุลจี้ตกต่ำลงในชั่วข้ามคืน จี้อิงอิง คุณหนูเล็กแห่งสกุลจี้เฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เล็ก หลงใหลในการย้อมไหม พรสวรรค์ค่อย ๆ ปรากฏชัด ตั้งใจฟื้นฟูเกียรติของสกุลจี้ในกิจการแพรไหม ล้างมลทินให้บิดา ลูกชายสกุลจ้าวโรงทอแพรไหมเพราะรักจึงเกลียด ขัดขวางสกุลจี้ไปเสียทุกอย่าง หยางจิ้งหลานบุตรอนุของตระกูลราชาแพรไหมเที่ยวร่ำเรียนไปทั่วอยู่หลายปี นำพาชื่อขุนนางแพรไหมกลับมา คุณชายลูกผู้ลากมากดีที่แบกรับตำแหน่งว่างของ “ขุนนางที่อายุสั้น” หลบซ่อนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อฟื้นคืนคดีปริศนาในตอนนั้น ระหว่างที่สืบสวน เขาก็ค่อย ๆ สนิทสนมกับจี้อิงอิงคุณหนูที่เผ็ดจัดจ้านที่เขาจดจำได้อย่างแม่นยำในสมัยเด็ก ร่วมจับมือกับจี้อิงอิงคลี่คลายวิกฤติต่าง ๆ ทักษะสีย้อมของจี้อิงอิงกลายเป็นมีชื่อเสียงในแคว้นสู่ ดึงดูดความสนใจของเซิ่งเฟิงเจ๋อไป๋อ๋องแห่งหนานจ้าวที่ต้องสูตรลับของทุกตระกูจนตาเป็นมัน ระหว่างที่โดนหนานจ้าวบีบบังคับ อี้โจวระส่ำระสาย จี้อิงอิงเสี่ยงชีวิต แบกรับหน้าที่ปกป้องช่างฝีมือพันคน หยางจิ้งหลานเข้าสู่หนานจ้าวเพียงลำพัง ร่วมมือกับจี้อิงอิงไกล่เกลี่ยกับหนานจ้าว ทำให้กิจการแพรไหมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มอบเรื่องราวที่แสนงดงามเกี่ยวกับแพรไหมสู่